วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เที่ยวชมความงามแห่งสวนแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

เที่ยวชมความงามแห่งสวนแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

 
สวนแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แห่งนี้ ตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่กว้างประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้ประดับนานาพรรณ ที่มีดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกชัลเวีย กุหลาบ ดอกลำโพง พิทูเนีย บีโกเนีย ไม้มงคลต่างๆ นอกจากนั้นแล้วยังมีไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลื้อยอีกมากมายกว่า 70 ชนิด และรูปปั้นต่อเนื่อง ฝีมือปั้นต่อเนื่อง โดยจากฝีมือของคุณมีเซียม ยิปอินซอย มีศาลาชมวิวและร้านจำหน่ายส้นค้าของที่ระลึก โดยมีมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง สวนแม่ฟ้าหลวงที่สร้างโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อถวายให้กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี และในบริเวณใกล้เคยงกับสวนแม่ฟ้าหลวงจะมีหอพระราชประวัติซึ่งได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ภายในอาณาบริเวณพระตำหนักดอยตุง จ.เชียงราย บ้านหลังแรกของสมเด็จย่า เป็นบ้านที่แวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติตามประสาคนรักต้นไม้ และบ้านหลังนี้เป็นที่ดึงดูดผู้คนจากทุกสารทิศเข้ามารวมกันเดินทางเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสายทุกวันและตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่ความหรูหราใหญ่โต หากแต่น่าจะเป็นเพราะบ้านหลังนี้เหมาะสมที่จะเป็นที่อยู่ของหัวใจของผู้ที่หลงไหลในธรรมชาติเสียมากกว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณีวัฒนาฯ ทรงได้เล่าไว้ในหนังสือ "เวลาเป็นของมีค่า" ถึงความที่เป็นนักนิยมธรรมชาติของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้ไว้ว่า "แม่ชอบดอกไม้ ต้นไม้มานานแล้ว ตั้งแต่เมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ และอยู่บ้านคุณหญิงสงวน แม่ไปขุดดินหลังบ้าน และปลูกพริกโดยที่ไม่มีใครขอให้ทำ เมื่ออยู่ที่ฮาร์ทฟอร์ด (Hartford) กับมิสซิสสตรอง (Mrs.Strong) แม่ก็ได้รับแบ่งที่ดินเล็กๆให้ทำสวน แม่ปลูกดอกไม้ อย่าง ดอกคอสมอส (cosmos) เมื่ออยู่ที่วิลลาวัฒนามี สวนใหญ่แม่ชอบทำสวนเอง เมื่อย้ายที่อยู่ไปแฟลตที่อาว็องโปสต์ (Avant-Poste) ไม่มีสอนแม่จึงต้องทำสวนบนเฉลียง" นั่นเอง
สวนแม่ฟ้าหลวงหรือสวนดอยตุง จ.เชียงราย เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว มีความสูง 950 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลอยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนัก สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2534 บริเวณที่ตั้งของสวน สามารถที่จะปลูกดอกไม้เมื่องหนาวได้ จึงมีพระราชประสงค์ที่จะให้ปลูกเพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีโอกาสได้ไปต่างประเทศได้รู้จักและชื่นชมดอกไม้ที่แปลกตาแตกต่างจากที่พบเห็นกันโดยทั่วๆไป ภายในสวนแห่งนี้นั้น ได้รับการออกแบบตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับนับหมื่นไปอย่างสวยงามยิ่ง ราวกับผืนพรมธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนไปตามทุกๆฤดูกาลละลานตาด้วยแปลงไม้ดอกและไม้พุ่มทั้งหลาย ดอกไม้ที่นี่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกมาให้ชมตลอดทุกวันของปี
สวนแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของหมู่บ้านอาข่าป่ากล้วย มีผู้คนอาศัยอยู่ 62 ครอบครัว ในอดีตหมู่บ้านนี้นั้นเป็นเส้นทางลำเลียงสำคัญและเป็นที่พักอาศัยของกองคาราวารฝิ่นน้ำยาท่าเฮโรอีนและอาวุธสงคราม ประกอบไปกับที่ตั้งที่มีลักษณะเป็นหุบลึกลงไป บ้านเรือนอยู่กันอย่างแออัด ขยายตัวแทบจะไม่ได้ จึงมีปัญหาเรื่องการดูแลความสะอาดเรื่อง ขยะและน้ำเสีย ทางโครงการพัฒนาดอยตุงฯ จึงขอให้หมู่บ้านย้ายออกไปอยู่ที่ใหม่จากที่เดิมราวๆ 500 เมตร แต่ตั้งอยู่บนเนินเขา กว้างขวางและสวยงาม มีระบบการประปาและไฟฟ้าเข้าไปถึง มีถนนลาดยางตัดผ่านจึงเป็นที่พอใจของชาวบ้านทั้งหลาย
ไม้ดอกไม้ประดับ จ.เชียงราย ที่นำมาตกแต่งภายในสวนแม่ฟ้าหลวง ปลูกและเลี้ยงดูไว้โดยชาวบ้านในโครงการฯ เป็นการพัฒนาทักษะฝีมือทางการเกษตรของชาวบ้าน และสร้างงานให้แก่ชาวบ้านให้มีรายได้ที่ดี สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ และยังเกิดกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นำรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม มาสู่พื้นที่ทุกๆปีปีละหลายล้านบาท กลางสวนมีงานประติมากรรมของนางมิเซียม ยิบอินชอบ โดยสมเด็จพระบรมราชชนนีทรงพระราชทานนามที่ชื่อว่า "ความต่อเนื่อง" (Continuity) สื่อถึงการทำงานใดๆจะสำเร็จได้ต้องทำกันอย่างต่อเนื่อง
ในปีพ.ศ. 2536 สวนแม่ฟ้าหลวงได้รับรางวัล พาตา โกลด์ อวอร์ด (PATA Gold Award) ประเภทรางวัลการพัฒนาของแหล่งท่องเที่ยว จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับเอเชีย - แปซิฟิก อีกด้วย

มาเที่ยวชม สวนแม่ฟ้าหลง จังหวัดเชียงราย กันเยอะๆนะครับ

ติดตามแหล่งท่องเที่ยวสวยงามในไทยได้อีก http://travel.sanook.com/

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ผ่อนคลายไปกับ น้ำพุร้อนป่าตึง (โป่งน้ำร้อนห้วยหินฝน) จังหวัดเชียงราย

ผ่อนคลายไปกับ น้ำพุร้อนป่าตึง (โป่งน้ำร้อนห้วยหินฝน) จังหวัดเชียงราย

 

น้ำพุร้อนป่าตึงหรือโป่งน้ำร้อนห้วยหินฝน ตั้งอยู่ที่ บ้านป่าตึง ม.11 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย อยู่ระหว่างทางไปดอยแม่สลองสายใหม่(ทางหลวงหมายเลข 1089) ด้านซ้ายมือใกล้หลัก กม. 78 อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอแม่จัน ถนนแม่จัน - ฝาง อยู่ประมาณ 8 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลป่าตึงประมาณ 700 เมตร ติดกับถนนเส้นทางแม่จัน - ฝาง น้ำพุร้อนป่าตึง (โป่งน้ำร้อนห้วยหินฝน)นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของตำบลและอำเภอแม่จัน โดยสร้างออกมาเป็นสวนหย่อมใจริมทาง สำหรับเป็นจุดแวะพักรถระหว่างการเดินทางไป-กลับดอยแม่สลอง เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่สวยงามและเป็นเหมาะแกการพักผ่อนเอาเท้าแช่น้ำเพลินๆหรือจะลงไปแช่ทั้งตัวเลยก็ยังได้
ภายในบริเวณโป่งน้ำร้อนนั้นมีลานน้ำพุร้อน ซึ่งมีความสูงมากถึง 10 เมตร อุณหภูมิของน้ำอยู่ระหว่ง 70-109 องศาเซลเซียส โดยจะสร้างฐานคอนกรีตล้อมรอบบริเวณน้ำพุร้อนเอาไว้ มีอาคารอาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพไปทั้งห้องธรรมดาและห้องวีไอพี มีห้องแช่ทั้งหมด 8 ห้อง ห้องตักอาบทั้งหมด 6 ห้อง และบริเวณโดยรอบ บ่อน้ำร้อน ก็จะมีสระน้ำและสวนสุขภาพเพื่อให้ผู้ที่มาพักผ่อน ได้อาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ ขึ้นชื่อกันว่าเมื่อได้อาบน้ำแร่ที่นี่แล้วจะสามารถรักษาโรคผิวหนังและโรคปวดตามจุดต่างๆได้เป็อย่างดี และยังได้ทั้งความสบายเนื้อสบายตัวผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่อีกด้วยมาเที่ยวเชียงรายอย่าลืมแวะมานะ
 

การเดินทางมาน้ำพุร้อนป่าตึง

ตั้งอยู่เลยจากบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐมา 1 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 20 กิโลเมตร

1. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว - จากตัวเมืองเชียงรายให้ขับรถโดยใช้เส้นทางไปหาดเชียงรายหรือพัทยาน้อย ผ่านทางพิพิธภัณฑ์อูบคำ จนไปถึงบ้านฮ่องลี่ให้เลี้ยวซ้ายก่อนถึงวัดเม็งรายมหาราชระยะ ประมาณ 100 เมตร จะเจอ 3 แยกให้เลี้ยวขวาไปตามถนนโยธาธิการและไปยังบ้านป่างิ้วจะมีป้ายบอกทางไปน้ำห่องอีกประมาณ 20 กิโลเมตร

2 เดินทางโดยรถแท็กซี่ - สามารถเหมารถไปกลับได้จากตัวเมืองเชียงราย ที่ท่ารถหน้าตลาดสดเชียงรายได้ทันที

3 เดินทางโดยเรือสองแถว - ให้ใช้บริาการเรืองร่องแม่น้ำกกได้เลย
ติดต่อสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 053-772-577, 081-9982-593

ติดตามสถานที่พักผ่อนสำหรับท่านที่ http://travel.sanook.com/

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มาเที่ยวทำความรู้จักวัดดัง เชียงราย วัดพระธาตุดอยตุง

มาเที่ยวทำความรู้จักวัดดัง เชียงราย วัดพระธาตุดอยตุง

วัดพระธาตุดอยตุง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย แห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้ายหรือกระดูกไหปลาร้าที่ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย ดังที่ตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อ 1,000 กว่าปีล่วงมาแล้วประมาณ พ.ศ. 1454 พระมหากัสสปะเถระพร้อมด้วยกับพระเข้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธ์ ร่วมกันกับข้าราชบริพารได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสถิตไว้ที่ดอยแห่งนี้ และได้ปักตุงหรือธงบูชาพระบรมสารีริกธาตุเป็นตุงตะขาบที่มีความยาวถึงพันวา ปักไว้บนยอดดอยปล่อยชายตุงปลิวสะบัดถึงที่ใดให้หมายเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ ดอยนี้จึงได้ชื่อว่าดอยตุงมาจนถึงทุกวันนี้ พระธาตุดอยตุงนั้นเป็นปฐมเจดีย์แห่งล้านนา ตุง คือศรีเมือง ขวัญเมือง และยังเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา สถิตคู่พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ตลอดมา และต่อมาในปี พ.ศ. 2470 ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้บูรณะองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามศิลปะแบบล้านนาดั้งเดิม และได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบองค์เดิมเอาไว้
ประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุดอยตุง

วัดพระมหาชินธาตุเจ้า(ดอยตุง) หรือเรียกโดยทั่วไปว่าวัดพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่ที่บริเวณส่วนที่เรียกกันว่า หน้าอกของดอยนางนอน ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่เป็นถิ่นอยู่อาศัยของชาวเขา ซึ่งดอยตุงมีระยะทางห่างจากอำเภอเมืองเชียงรายอยู่ประมาณ 46 กม. และมีพระธาตุดอยตุงประดิษฐานอยู่บนยอดดอย ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลเนื่องจากพระธาตุดอยตุงตั้งอยู่สูงกว่าระดับน่ำทะเลถึงประมาณสองพันเมตร

ตามตำนานเล่าว่า พระธาตุดอยตุงนั้นสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองนครโยนกพันธุ์ (ปัจจุบันนั้นคืออำเภอแม่จัน) พระมหากัสสปะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า)แล้วมอบให้แก่ พระเจ้าอชุตราช ก็ได้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขึ้นไว้บนดอยแห่งนี้ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ แล้วจึงได้ให้ทำตุง(ธง) ที่มีความยาว 1,000 วา ปักไว้บนยอดเขา หากตุงปลิวไปถึงที่ใดก็กำหนดมห้เป็นฐานของพระเจดีย์ ทั้งนี้พระองค์ได้พระราชทานทองคำได้ให้พวกลาวจกเป็นค่าที่ดินและให้พวกปีลักยู 500 ครอบครัว ดูแลรักษาพระธาตุ ในเวลาต่อมาในสมัยพญามังรายแห่งราชวงศ์มังราย พระมหาวชิรโพธฺเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย 50 องค์ พญามังรายจึงได้ให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม และนับจากนั้นเป็นต้นมาพระธาตุดอยตุงจึงได้มีเจดีย์สององค์มาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
รูปแบบสถาปัตยกรรมของ พระธาตุดอยตุงแต่เดิมมีองค์เดียว รูปแบบก่อเป็นศิลปะเชียงแสนย่อมุมไม้สืบสอง คล้ายกับพระธาตุดอยสุเทพ เมืองเชียงรายในสมัยก่อนเป็นเมืองร้างอยู่หลายครา พระธาตุดอยตุงจึงขาดการบูรณะปฏิสังขรณ์ ตัวพระธาตุที่ทรุดโทรมและพังทลายลงนับตั้งแต่พญามังรายนั้นได้สร้างเจดีน์อีกองค์ใกล้กันอีกองค์หนี่ง จึงทำให้พระธาตุดอยตุงมีสององค์ ในปัจจุบันพระธาตุเป็นสีกองขนาดเล็กสององค์มีความสูงประมาณ 5 เมตร บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มจระนำสี่ทิศอยู่บนดอยสูงแวดล้อมไปด้วยป่ารกคลื้ม ที่เรียกว่า สวนเทพารักษ์ เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เวลาต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2470 องค์พระธาตุได้ทรุดโทรมลงมาก ครูบาเจ้าศรีวิชัยกับประชาชนเมื่องเชียงรายได้บูรณะขึ้นมาใหม่ โดยการสร้างเป็นเจดีย์องค์ระฆังขนาดเล็กสององค์บนฐานแปดเหลื่ยม ตามศิลปะแบบล้านนา การบูรณะครั้งหลังสุดนี้มีขั้นเมื่อปีพ.ศ. 2516 โดยกระทรวงมหาดไทยได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ขึ้นครอบพระเจดีย์เดิมเอาไว้นั้นเอง

 ติดตามสถานที่อีกมากที่จะพาคุณไปเที่ยวในแบบที่คุณต้องการ http://travel.sanook.com/

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ท่องเที่ยวดอยผาตั้ง จุดชมวิว เชียงราย

 ท่องเที่ยวดอยผาตั้ง จุดชมวิว เชียงราย

ดอยผาตั้งนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและยอดนิยมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในเขตตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
ดอยผาตั้งแห่งนี้เป็นยอดดอยอยู่ในเทือกเขาหลวงพระบางสันปันน้ำเป็นจุดแบ่งอาณาเขตระหว่างประเทศไทย กับ ลาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความขึ้นชื่อสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้าและชมพระอาทิตย์ตกในเวลายามเย็น ผาตั้งจังหวัดเชียงรายแห่งนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร และเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยชาวจีนฮ่อส่วนหนึ่งมาจากกองพล 93 ซึ่งอพยพออกมาตั้งถิ่นฐานที่นี่เหมือนกับที่ดอยแม่สลองนั่นเอง
การท่องเที่ยวดอยผาตั้งสามารถชมได้ทั้งยามเช้าและยามเย็น ในยามเช้า ผาตั้งจะเป็นจุดที่ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ได้อย่างงดงาม และในยามเย็นก็สามารถชมพระอาทิตย์อัศดงได้สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมาก เส้นทางเดินขึ้นยอดดอยอยู่ติดกับสถานที่จอดรถและร้านค้าบริการความยาวไปประมาณ 700 เมตร จากยอดดอยสามารถที่จะมองเห็นแม่น้ำโขงฝั่งลาวและสามารมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าที่อยู่ห่างออกไปเป็นระยะทางกว่า 25 กิโลเมตรได้ชัดเจนในช่วงทุกวันของวันที่ 31 ธ.ค.- ต้นเดือน ม.ค. ของทุกปี และจะมีเทศกาลชมทะเลหมอกชมดอกซากุระบานอีกด้วย

 
จุดชมวิวและจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนดอยผาตั้ง

1. จุดชมวิวผาบ่องประตูสยามนั้นเป็นหน้าผาหอนขนาดใหญ่ตรงกลางเป็นเนินช่องเขาที่เหมือนประจู เป็นช่องทางเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

2.ศาลาเก๋งจีน-พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ-ป่าหินยูนนาน ถัดจากช่องผาบ่องขึ้นไปอีกระยะราว 15 เมตร จะเป็นเนินที่ประดิษฐานพระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติและศาลาทรงเก๋งจีนอนุสรณ์สถานของนายพลหลี่ผู้นำ ทจช. ในอดีต และจากเนินตรงนี้เดินลงไปอีก 30 เมตร ก็จะพบกับทางขึ้นไปชมป่าหินยูนนาน ซึ่งรูปร่างเป็นหินรูปทรงลักษณะคล้ายภูเขาในประเทศจีนที่มีรูปทรงสูงๆหลายแหลมขึ้นสลับ ซับซ้อนสวยงามอย่างมาก

3.จุดชมวิวช่องผาขาดนี้นั้นเป็นจุดชมวิวที่อยู่ใกล้วิวผาบ่องประตูสยาม มีลักษณะเป็นผาหินที่แยกออกเป็นช่องมองลงไปเห็นทิวทัศน์ประเทศลาวและสายแม่น้ำโขงไดอย่างชัดเจนและสวยงาม

4.จุดชมทะเลหมอกเนิน 102 จากจุดผาขาดเดินขึ้นดอยต่อไปยังเนิน 102 ระยะทางมากกว่า 300 เมตร เป็นเนินเขาลูกหนึ่งบนดอยผาตั้งที่เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุด และสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลสุดตา เป็นละลอกคลื่นอยู่ไกลๆ เป็นภาพที่น่าจดจำสุดๆ

5.จุดชมทะเลหมอกเนิน 103 เป็นเนินเขาอีกลูกบนดอยผาตั้งที่อยู่ห่างจากเนิน 102 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 500 เมตร มีลักษณะบนเนิน 103 มีหินขนาดใหญ่อยู่บนเนินและเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดบนดอยผาตั้ง เพราะสามารถชมทะเลหมอกได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาน่าประทับใจสุดๆ

ติดตามผลงานอีกมากมายที่  http://travel.sanook.com/

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ไร่ชาฉุยฟง ไร่ชาบรรยากาศสุดโรแมนติก เชียงราย

ไร่ชาฉุยฟง ไร่ชาบรรยากาศสุดโรแมนติก เชียงราย

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริได้ส่งเสริมให้ประชากรมีอาชีพการเกษตร ด้วยโอกาสนี้ คุณทวี วนัสพิทักษกุล ก็ได้ริเริ่มการปลูกใบชาโดยได้ก่อตั้งโรงงานชาฉุยฟง จำกัด ในปีค.ศ. 1979(พ.ศ.2522) ในเขตพื้นที่หมู่บ้านพญาไพร ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ในสมัยนั้นโดยได้รับการสนับสนุนแนะนำมาจากโครงการหลวงฯและได้รับประสานความช่วยเหลือจากสมาคมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากจีนไต้หวันตลอดระยะเวลาทั้งหมด 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทชาฉุยฟง จำกัด ได้มุ่งมั่นพัฒนาพื้นที่การปลูกใบชาในพื้นที่อากาศอันเหมาะสมแห่งนี้จนได้รับความเจริญก้าวหน้ามาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
เมื่อ30ปีที่ผ่านมานั้น คุณทวี วนัสพิทักษกุล ได้ทำการขยายกิจการโดยชักชวนเหล่ามวลชนในหมู่บ้านพญาไพรและพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้าร่วมโครงการปลูกชาพันธ์ดี เพื่อที่จะนำผลผลิตเข้าสู่โรงงานของบริษัทชาฉุยฟง จำกัด ซึ่งได้เข้าร่วมมือกันขยายพื้นที่ปลูกชาโดยประมาณ 300 ไร่และในเวลาขณะนั้น บริษัทชาฉุยฟง จำกัด ก็ได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแห่งจีนไต้หวัน เขาได้มอบต้นกล้าชาอู่หลงซึ่งเป็นชาพันธุ์ดีมากในจำนวน 360 ต้น มาทำการเพาะปลูกขยายกล้าพันธุ์ พร้อมได้รับคำแนะนำจากผู้เชียวชาญฯในระยะเวลาดังกล่าว จนทำให้บริษัทชาฉุยฟง จำกัด ได้พัฒนาไร่ชาต่อไปอย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นแบบอย่างของการเกษตรในพื้นที่ภูเขาสูงและมีผู้เข้าโครงการกับ บริษัทชาฉุยฟง จำกัด จากพื้นที่ใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาการในเขตพิ้นที่บริการตามโครงการของบริษัทชาฉุยฟง จำกัด ดีขึ้นกว่าเดิมมากจากในอดีต
และจากการพัฒนาการในลงทุนดังกล่าว และประสบการณ์ที่ผ่านมากว่า 30 ปี ของคุณทวี วนัสพิทักษกุล ได้ทำการขยายพื้นที่ทำไร่ชาพร้อมกับได้ก่อสร้างโรงงานผลิตใบชาแห่งใหม่ในปี ค.ศ.2005 (พ.ศ.2548) ในบริเวณพื้นที่ดอยแม่สลองที่อยู่ในตำบลป่าซาง ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายที่มีพื้นที่มากกว่า 400 ไร่เลยทีเดียว ได้รับการการสนับสนุนมาจากธนาคารกสิกรไทยจำกัด มหาชน และได้พัฒนาไร่ชาแห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แห่งใหม่ของจังหวัดเชียงรายด้วย จากผลผลิตใบชาจากโรงงานแห่งนี้นั้นทำให้ได้เป็นสินค้าส่งออกสู่ตลาดสากลได้ในปัจจุบันและอนาคตยังคงเป็นที่ชูห้าชูตาของประเทศต่อไปเรื่อยๆอย่างแน่นอน
 
ไม่เพียงแค่นั้นทางไร่ฉุยฟงยังมีบริการด้านของ หวานอาหาร เครื่องดื่ม ที่ทำจากผลิตผลของไร่เอง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเป็นสเน่ห์รสชาติที่ไม่เหมือนใครจากผลิตผลของไร่ฉุยฟง จังหวัดเชียงราย

ติดตามไร่อื่นๆได้อีกที่ http://travel.sanook.com/

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ยอดดอยแม่สลอง จ.เชียงราย

พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ยอดดอยแม่สลอง จ.เชียงราย

พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี เป็นประดิษฐานที่อยู่บนยอดที่สูงสุดของดอยแม่สลอง เริ่มต้นสร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่ปี 2532 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า)ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา แต่มาแล้วเสร็จก็เมื่อปี 2539 รูปลักษณ์นั้นเป็นเจดีย์แบบล้านนาประยุกต์มีความสูงถึง 39.5 เมตร ฐานกว้างด้านละประมาณ 35 เมตร ในบริเวณเดียวกันก้ยังมีพระอุโบสถแบบล้านนาประยุกต์ และหอนิทรรศการ ซึ่งสามารถใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาพระอัตถิฐาตุ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า)ได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของที่นี่ : จุดสูงสุดดอยแม่สลอง, อากาศเย็น, วิวสวย

จุดน่าประทับใจ:

- ด้วยความสวยงามของพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรีทำให้ดูชมต้องหลงไหลในความสวยงามของพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรีแห่งนี้

- วิวที่มองเห็นขุนเขาบวกกับอากาศเย็นๆสบายๆให้อารมที่สุดยอดมาก

ข้อเสีย:

- ทางไปค่อนข้างลำบากและมีความโหดมากๆโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเป็นพิเศษ
สถานที่ตั้งพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี :

ที่ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

การเดินทางไปพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี :

โดยจากจังหวัดเชียงรายให้ใช้ถนนพหลโยธิน วิ่งตรงไปยังอำเภอแม่สาย และเมื่อถึงอำเภอแม่จัน ให้ขับตรงไปนิดเดียวแล้วจะพบสามแยกไปดอยแม่สลอง ให้เลี้ยวซ้ายไปทางดอยแม่สลอง พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี จะตั้งอยู่จุดสูงสุดดอยแม่สลองนั่นเอง
คำแนะนำ : ถ้าได้มีโอกาสได้ไปพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี จุดสูงสุดดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ขอแนะนำว่าอย่ามัวแต่ชมวิวจนเพลินเกินไป ลองเข้าไปในตัวพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรีดู จะมีสิ่งที่น่าสนใจมากๆเกี่ยวกับ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า) ให้ท่านได้ศึกษาเรียนรู้ รับรองว่าต้องถูกใจท่านอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวท่องเที่ยวใหม่ๆได้อีกที่ http://travel.sanook.com/

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ดอยแม่สลอง วิวทิวทัศน์งดงามแห่ง จ.เชียงราย

ดอยแม่สลอง วิวทิวทัศน์งดงามแห่ง จ.เชียงราย

 
สถานที่ : ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
ดอยแม่สลองแห่งนี้เป็นที่เที่ยวเชียงราย เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคีรี เดิมทีชื่อบ้านแม่สลองนอก ที่เป็นชุมชนผู้อพยพจากกองพล 93 จากประเทศพม่าที่เข้ามาในเขตไทย
ที่นี่นักท่องเที่ยวมักนิยมขึ้นมาชมทิวทัศน์ที่ทั้งสวยงาม บรรยากาศสดชื่น และสัมผัสถึงอากาศเย็นสบายของภาคเหนือ อีกทั้งได้ชมวิถีชีวิตของชุมชนที่ยังคงยึดอาชีพปลูกชาและพืชผักเมืองหนาวเป็นหลัก

ติดตามสถานที่สวยงามอีกมากที่ http://travel.sanook.com/